การเลี้ยงปลาสลิด
ปลา สลิดหรือปลาใบไม้
ปลาพื้นบ้านของประเทศไทยมีแหล่งกำเนิดอยู่ในที่ลุ่มภาคกลาง
เป็นปลาที่นิยมบริโภคเนื่องจากมีรสชาติดี เนื้ออร่อย เป็นผลผลิตที่ตลาดต้องการสูง
สามารถนำมาประกอบอาหารทั้งในรูปสด และทำเก็บตากแห้ง
ซึ่งปลาสลิดตากแห้งเป็นที่นิยมบริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ปลาสลิดสามารถเลี้ยงได้ในพื้นที่ดินพรุทางภาคใต้ในเขตจังหวัดนราธิวาส
ซึ่งเป็นดินเปรี้ยวก็สามารถใช้เป็นที่เลี้ยงปลาสลิดได้
เพราะปลาสลิดเป็นปลาที่เลี้ยงง่าย ทนต่อความเป็นกรด
และน้ำที่มีปริมาณออกซิเจนน้อยได้ดี มีห่วงโซ่อาหารสั้นคือ กินแพลงก์ตอนเป็นอาหาร
ต้นทุนการผลิตต่ำ โดยจะเลี้ยงอยู่ในนา, เรียกแปลงนาปลาสลิดหรือล้อมปลาสลิด
การเพาะพันธุ์ปลา ปลาสลิดสามารถผสม พันธุ์และวางไข่ได้เมื่อมีอายุ
7 เดือน
ขนาดโตเต็มที่โดยเฉลี่ยจะมีขนาดตัวยาวประมาณ 6-7 นิ้ว หนัก 130-400
กรัม ปลาสลิดจะเริ่มวางไข่ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนสิงหาคม
หรือในฤดูฝน แม่ปลาตัวหนึ่ง ๆ จะสามารถวางไข่ได้หลายครั้ง
แต่ละครั้งจะได้ปริมาณไข่ประมาณ 4,000-10,000 ฟอง
ในฤดูวางไข่ ท้องแม่ปลาจะอูมเป่งออกมาทั้งสองข้าง ลักษณะของไข่ปลาสลิดมีสีเหลือง
ควรจัดที่ให้ปลาสลิดวางไข่ภายในเดือนมีนาคม
โดยหลังที่ได้กำจัดศัตรูปลาระบายน้ำเข้า และปล่อยพันธุ์ปลาลงบ่อแล้ว น้ำลึกประมาณ 20-30
เซนติเมตร ควรปลูกผักบุ้งรอบบริเวณชายบ่อ
ปลาสลิดจะเข้าไปก่อหวอดวางไข่ และลูกปลาวัยอ่อนจะสามารถเลี้ยงตัวหลบหลีกศัตรูตามบริเวณชานบ่อนี้ได้ 1. ระบายน้ำเข้าบ่อผ่านตะแกรงที่มีช่องตาขนาด
1 มิลลิกรัมจนท่วมชานบ่อ โดยรอบ ให้มีระดับสูง 20-30 เซนติเมตร
ปลาจะเข้าก่อหวอดวางไข่มากขึ้นอาณาเขตบ่อก็จะกว้างขวางกว่าเดิมเป็นการเพิ่ม
ที่วางไข่ และที่เลี้ยงตัวลูกปลามากขึ้น 2. สาดปุ๋ยมูลโคและมูลกระบือแห้งบนบริเวณชานบ่อที่ไขน้ำท่วมขึ้นมาใหม่
จะทำให้เกิดไรน้ำและผักบนชานบ่อเจริญงอกงามขึ้นอีกด้วย 3. ปล่อยให้ผักขึ้นรกในบริเวณชานบ่อ
ผักเหล่านี้ปลาสลิดจะใช้ก่อหวอดวางไข่
และเป็นกำบังหลบหลีกศัตรของลูกปลาในวัยอ่อนจนกว่าจะแข็งแรงเอาตัวรอดได้ การ วางไข่ ก่อนปลาสลิดจะวางไข่
ปลาตัวผู้จะเป็นฝ่ายเตรียมการเลือกสถานที่
และก่อหวอดซึ่งเป็นฟองน้ำละลายไว้ในระหว่างต้นผักบุ้งโปร่งไม่หนาทึบเกินไป
ปกติปลาสลิดตัวเมียจะชอบวางไข่ในที่ร่มมากกว่ากลางแจ้งเมื่อเตรียมหวอดเสร็จ แล้ว
ปลาก็จะเริ่มผสมพันธุ์กันโดยตัวผู้จะเริ่มไล่ต้อนตัวเมียเข้าใต้บริเวณหวอด
และรัดท้องตัวเมียให้ไข่ออกแล้วปล่อยน้ำเชื้อเข้าผสมกันไข่
จากนั้นปลาตัวผู้จะอมไข่เข้าใต้หวอด ไข่จะลอยติดอยู่ที่หวอด
นอกจากการเพาะพันธุ์ปลาสลิดในบ่อแล้ว วิธีการเตรียมบ่อ การใส่ปูนขาว บ่อที่ขุดใหม่โดยทั่วไปแล้ว
ดินมักจะมีสภาพเป็นกรด ควรใช้ปูนขาวโดยให้ทั่วบ่อ 1 กิโลกรัม ต่อเนื้อที่ 10 ตารางเมตร
เพื่อแก้ความเป็นกรดของดินให้เจือจาง ถ้าเป็นบ่อเก่าที่ไม่เคยใช้เลี้ยงปลา
ควรกำจัดวัชพืชต่าง
หากบ่อตื้นเขินไม่เหมาะแก่การเลี้ยงปลาควรสูบน้ำออกลอกเลนและตกแต่งพื้นบ่อ
ให้มั่นคงแข็งแรง แล้วตากบ่อให้แห้งประมาณ 1 สัปดาห์
เพื่อให้แสงแดดช่วยฆ่าและกำจัดเชื้อโรคต่าง ๆ ก่อนจะปล่อยพันธุ์ปลา ลงเลี้ยง
ควรใช้โล่ติ๊นฆ่าศัตรูต่าง ๆ ของปลาในบ่อให้หมดสิ้นเสียก่อน โดยใช้โล่ติ๊นสด หนัก 1 กิโลกรัมต่อน้ำ 100 ลูกบาศก์เมตร ทุบโล่ติ๊นให้ละเอียดแช่น้ำไว้ โล่ติ๊นสดหนัก 3 กิโลกรัม ใช้น้ำประมาณ 2 ปีบ ขยำเอาน้ำสีขาวออกหลาย
ๆ ครั้งจนหมด แล้วน้ำไปสาดให้ทั่ว ๆ บ่อ ปลาต่างๆ
ที่เป็นศัตรูจะเริ่มตายหลังจากที่ใส่โล่ติ๊นลงไปประมาณ 30 นาที
จากนั้นจะตายต่อไป จนหมดบ่อ แล้วปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 7-8 วัน
เพื่อให้พิษของโล่ติ๊นสลายตัวหมดเสียก่อน จึงนำพันธุ์ปลาสลิดปล่อยลงเลี้ยงต่อไป
ยังสามารถเพาะในถังทรงกลมได้อีกด้วย